ทำไมหมากับแมวจึงเป็นศัตรู(敌人)กัน
กาลครั้งหนึ่ง เศรษฐีได้เลี้ยงแมวและหมาไว้บนบ้านของตน เศรษฐีมีแก้วที่มีค่าดวงหนึ่ง วันหนึ่งเศรษฐีไม่อยู่บ้าน พวกพ่อค้าต่างเมืองได้นำดวงแก้วปลอมมาขอแลกกับเมียเศรษฐี เมียเศรษฐีเห็นว่าเป็นดวงแก้วลูกใหญ่กว่าของเดิมก็ยอมแลก
เมื่อเศรษฐีกลับบ้านรู้ว่าเมียแลกดวงแก้วมีค่ากับดวงแก้วปลอมจึงใช้หมากับแมวไปตามหาแก้วมีค่าคืนมาให้ได้ หมาจำกลิ่นชายพ่อค้าได้ จึงสูดดมกลิ่นตามไปจนถึงบ้าน และได้รู้ว่าพ่อค้าเก็บดวงแก้วมีค่าไว้ในกำปั่น แมวจึงอาสาไปจับหนูแล้วสั่งให้หนูไปกัดกำปั่นให้ขาด
แมวเห็นดวงแก้วนั้นแล้วคาบออกมาหมาเห็นดวงแก้วจึงเข้าชิง(抢)จากแมวเพราะอยากเอาหน้า จึงคิดจะคาบดวงแก้วเอามาให้เจ้านายตนเอง ระหว่างทางหมาหิวน้ำจึงไปที่ลำธาร บังเอิญเห็นปลาตัวใหญ่จึงเห่าและเป็นเหตุให้ดวงแก้วหลุดจากปากลงไปในน้ำ ปลาคิดว่าเป็นอาหารจึงกลืนดวงแก้วเข้าไปในท้อง
แมวพยายามจะหาวิธีจะนำดวงแก้วกลับคืนมาให้ได้ จึงไปจับกาน้ำได้ตัวหนึ่ง สั่งให้กาน้ำไปดำน้ำ จับปลาตัวที่กลืนดวงแก้วมาให้ได้ แล้วจะไว้ชีวิต กาน้ำดำน้ำ หาปลาอยู่หลายวัน จนได้ปลาตัวที่กลืนดวงแก้ว แมวจึงได้ดวงแก้วคืน
หมาอาสาคาบดวงแก้วกลับบ้านอีกแมวก็ยอม หมารีบวิ่งกลับบ้านนำดวงแก้วกลับมาให้เจ้านาย ส่วนแมววิ่งไม่ทันหมา จึงมาถึงบ้านช้ากว่าหลายวัน หมาฟ้องเจ้านายว่า แมวไม่ใส่ใจหาดวงแก้วและยังเถลไถลอีกด้วย
ครั้นเมื่อแมวมาถึงบ้านเจ้าของจึงถามแมว แมวจึงเล่าความจริงทุกประการ เจ้าของฟังคำของแมวเห็นว่าจริง จึงเตะหมาตกบ้านแล้วสั่งไม่ให้หมาขึ้นบ้านอีก ตั้งแต่นั้นมาหมาจึงถูกเลี้ยงไว้ใต้ถุนบ้าน หมาโกรธแมวมาก คอยหาโอกาสเล่นงานตั้งแต่นั้นมาหมากับแมวจึงเป็นศัตรูตราบเท่าทุกวันนี้