กาลจักร คืนนั้น กาลจักรโคจรมาเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ล้มลงหลับสนิทหลงใหลใฝ่ฝันว่า หอยทากหมู่หนอนร่านริ้นจุลินทรีย์ อันกระจิริดมาท้าทายให้วิ่งแข่งขันกัน เวลาจึงปลุกนาฬิกาขึ้น ขออ้างไว้เป็นสักขีพยาน แล้วก็รับคำท้าทาย อันโอหังบังอาจนั้นทันที หอยทากและหมู่หนอนร่านริ้นจุลินทรีย์ เริ่มคืบคลานไป เวลาก็เร่งฝีเท้าขึ้นอย่างรวดเร็ว จนล่วงหน้าสรรพสิ่งทั้งหลายไป กระทั่งล่วงเข้าในแว่นแคว้นหนึ่ง ซึ่งไม่เคยมีใครไปถึง มีเทือกผาชันสูงลิบลิ่ว บางดวงดาวโคจรมากระทบหน้าผาแตกร่วงเป็นผลึกแก้วมณี ต้องสายน้ำตกทอรุ้งแวววาว สายลมโชยนานาบุปผชาติหอมเข้มข้นเป็นวนวัง แววทิพยเนตรแห่งเวลาได้มาเห็น และหลงใหลในภวังค์ธรรมชาตินั้น จนหลงทางปะทะหน้าผาล้มสลบไสลไป กลางดึกดื่น สัตว์ร้ายรูปประหลาด บนชะโงกเงื้อมผาสูง ยโสทำท่าจะตะปบดวงดาววาววับ แต่เล็บอันต่ำนั้นเอื้อมกระชากไปไม่ถึง หน่อไผ่ป่าชูลำอวดแสงดาว ทับสมิงคลาคลายขนดหนีน้ำค้าง ยามนี้ยะเยือกหนาววิเวกวังเวง เวิ้งเทือกผาป่าชัฎดั่งจะหลับไหลไปสิ้น บัดดล เวลาฟื้นขึ้น เห็นไปจบเวิ้งสกลจักรวาลว่า หอยทากและหมู่หนอนร่านริ้นจุลินทรีย์ คืบคลานไปถึงทางช้างเผือก กำลังแทะกินดวงดาวผุพรุนไปหมดแล้ว กาลเวลาตื่นเต้นวิตกมาก จึงเร่งรีบวิถีกาลจักรโคจรไป แต่หมู่หนอน และหอยทากก็มีปีกบินสิ้นแล้ว เวลาเพิ่งไปถึงถึงดวงเดือน รำพึงว่า ข้าน้อยนี้ล่าช้าจริง เสียงนั้นไหวระลอก กระจายทั่วฟากฟ้ายินไปถึงทุกดวงดาว บัดดลนั้นดวงดาวทั้งหลายก็ร่ำไห้รำพันว่า เราเจ็บปวด ทรมานอยู่นานนับด้วยกัปป์ กัลป์ ท่านเพิ่งมาถึง ไฉนจึงล่าช้าเหลือเกิน เห็นไหม หมู่หนอนอันน่าขยะแขยง คืบคลานแทะกินดวงดาว ผุพรุนไปหมดแล้ว มันกำลังบินจะไปดินเดือนและดาวในสุริยะจักรวาลอื่น ท่านยังโอ้เอ้อยู่อีกหรือ ไฉนไม่รับประหารความกักขฬะนั้นให้สิ้นเสร็จเด็ดขาด เวลาฟังดังนั้น ก็ขอโทษและนิ่งอยู่ด้วยโศกาดูรเป็นที่ยิ่ง จึงบอกนาฬิกาถึงความเสียใจ นาฬิกาทั้งหลายพลอยร่ำไห้ จนเกิดเป็นกระแสธารแห่งเวลาหลากไหลเชี่ยวกล้า กาลเวลาจึ่งนฤมิต ความปรารถนา เป็นสำเภาทองคำหนึ่ง เอาความซื่อตรงเป็นกัปตันจัดสรรพร้อมสรรพ อาวุธหอกดาบปืนไฟ ขณะนั้น หนอนใหญ่อันน่าขยะแขยงตัวหนึ่ง ซึ่งล่าช้าอยู่เป็นตัวสุดท้าย ในกระบวนการสัตว์เลื้อยคลานฝูงนั้น กำลังจะเข้าแทะกินเดือนเพ็ญวิสาขมาสพอดี สำเภาทองของเวลาก็ให้สัญญารบพร้อมประจุจุดปังปืนไฟทิพย์ ระดมธนูพิษหอกดาบไปเป็นห่าฝน จนหนอนประหลาดนั้นละเอียดเป็นผงคลี ปลิวตกลงเป็นความชั่วช้าสารเลวในพื้นภพอันต่ำลงไป กาลเวลา สะดุ้งตื่นไม่พอใจในฝันร้าย นับแต่นั้นมา เวลาก็มิได้หลับอีกเลย แม้ว่าสกลจักรวาลจะหลับสนิท นานนับด้วยกัปป์กัลป์ก็ตามที กาลจักรยังตื่นอยู่ ประดุจนายยามเฝ้าพิทักษ์ทิวาราตรี กลางอนันตกาล อันปราศจากขอบเขตไปชั่วนิจนิรันดร |