กระต่ายตื่นตูม
ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดพระเชตวันเมืองสาวัตถี ทรงปรารภเดียรถีย์ (นักบวชนอกศาสนา) ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า…
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นราชสีห์อาศัยอยู่ในป่าแห่งหนึ่ง มีดงตาลกับต้นมะตูมอยู่ติดทะเลที่ด้านทิศตะวันตกของป่านั้น ณ ที่ดงตาลนั้นมีกระต่ายอยู่ตัวหนึ่งอาศัยอยู่ใต้ต้นตาลใกล้ต้นมะตูมต้นหนึ่ง อยู่มาวันหนึ่งเจ้ากระต่ายออกเที่ยวหากินอิ่มแล้ว กลับมานอนพักผ่อนอยู่ที่ใต้ใบตาลแห้ง กำลังนอนคิดเพลิน ๆ อยู่ว่า “ถ้าหากแผ่นดินนี้ถล่ม แล้วเราจะไปอยู่ที่ไหนหนอ” ทันใดนั้นเองผลมะตูมสุกลูกหนึ่งได้หลุดออกจากต้นหล่นลงมาถูกใบตาลเสียงดังลั่นเจ้ากระต่ายนึกว่าเป็นเสียงแผ่นดินถล่ม จึงร้องขึ้นสุดเสียงว่า “แผ่นดินถล่มแล้ว ๆ ” พร้อมกับกระโดดวิ่งหนีไปสุดชีวิตโดยไม่เหลียวหลังมาดูเลย
กระต่ายตัวอื่น ๆ เห็นมันวิ่งหนีอะไรซักอย่างมาอย่างสุดชีวิต กระต่ายตัวอื่นๆจึงร้องถามมันว่า “เจ้าวิ่งหนีอะไรมา” มันทั้งวิ่งทั้งร้องตอบว่า “รีบหนีเร็ว แผ่นดินถล่มแล้ว ๆ” กระต่ายจำนวนนับพันต่างก็รีบวิ่งหนีตายตามมันไปด้วย สัตว์ป่านานาชนิดเมื่อทราบข่าวนั้นเข้า ต่างก็วิ่งหนีตามกระต่ายตัวนั้นไป ฝูงสัตว์วิ่งหนีตามกันมาเป็นทิวแถว ราชสีห์เห็นสัตว์น้อยใหญ่วิ่งกันมาฝุ่นฟุ้งกระจุยกระจายไปทั้วป่า จึงร้องถามไปว่า “พวกเจ้าวิ่งหนีอะไรกันมา” ได้รับคำตอบว่า “ท่านราชสีห์ แผ่นดินที่โน้นถล่มแล้ว พวกเราวิ่งหนีตายกันมา” แล้วก็วิ่งไปต่อ บ่ายหน้าไปทางหน้าผาสูงชันโดยไม่รู้ตัว ราชสีห์ด้วยความกรุณาในสัตว์ทั้งหลายเกรงว่าจะตกเหวตายกันเสียหมด จึงวิ่งไปดักข้างหน้าพร้อมกับคำรามด้วยเสียงอันดังลั่นขึ้น ๓ ครั้ง สัตว์ทั้งหลายพอได้ยินเสียของราชสีห์ก็พากันตกใจกลัว แล้วตื่นจากภวังค์พร้อมกับหยุดวิ่งลง
ราชสีห์จึงถามว่า “ใครเห็นแผ่นดินถล่มบ้าง” พวกสัตว์บอกว่า “ช้างเห็นขอรับ” ช้างบอกว่า “เสือเห็น” เสือบอกว่า “แรดเห็น” แรดบอกว่า “ควายเห็น” ควายบอกว่า “หมูป่าเห็น” หมูป่าบอกว่า “กวางเห็น” กวางบอกว่า “กระต่ายเห็น” พวกกระต่าย จึงชี้บอกว่า “กระต่ายตัวนี้เห็นแผ่นดินถล่มครับ..นาย” ราชสีห์จึงถามกระต่ายตัวนั้นว่าเป็นจริงหรือเปล่า กระต่ายตอบว่า “ข้าพเจ้าเห็นจริง ๆ นายท่าน ขณะที่ข้าพเจ้ากำลังนอนพักผ่อนอยู่ใต้ใบตาลก็มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้น ข้าพเจ้าจึงวิ่งหนีตายมานี่ละ.. นายท่าน”
ราชสีห์เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงบอกให้สัตว์ทั้งหลายรออยู่ก่อน ส่วนตนและเจ้ากระต่ายได้เดินกลับไปดูสถานที่ต้นเหตุ ตรวจดูเห็นผมมะตูมสุกลูกหนึ่งวางอยู่ก็เข้าใจได้ทันที จึงกลับมาบอกสัตว์ทั้งหลายว่า “ท่านทั้งหลายพวกท่านเลิกกลัวได้แล้ว เสียงแผ่นดินถล่ม เป็นเสียงผลมะตูมสุกหล่นกระทบใบตาลแห่งดอก เลิกกลัวได้แล้ว” สัตว์ทั้งหลายอาศัยราชสีห์จึงเอาชีวิตรอดมาได้
พระพุทธองค์จึงตรัสพระคาถาว่า
“พวกคนโง่เขลายังไม่ทันรู้เรื่องราวแจ่มแจ้ง ฟังคนอื่นโจษขาน ก็พากันตื่นตระหนก พวกเขาเชื่อคนง่าย ส่วนคนเหล่าใดเป็นนักปราชญ์ เพียบพร้อมด้วยศีลและปัญญา ยินดีในความสงบ และเว้นไกลจากการ ทำชั่ว คนเหล่านั้นหาเชื่อคนอื่นง่ายไม่”
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ก่อนแต่จะเชื่ออะไรใคร ควรพิจารณาตรวจสอบความเป็นจริงเสียก่อน เพื่อความถูกต้องจะไม่ได้เป็นอย่างกระต่ายตื่นตูม
英语
日语
韩语
法语
德语
西班牙语
意大利语
阿拉伯语
葡萄牙语
越南语
俄语
芬兰语
丹麦语
对外汉语