ร่าย
๑๓๑ ปู่ก็เอาธงสามชาย รายยัันต์มากกว่าเก่า เขียนพระลอ เจ้าอยู่กลาง เขียนสองนางแนบสองข้าง กอดเจ้าช้างรัดรึง ชักทึงท้าวชวนเต้า แล้วปู่เป่าตะเคียนใหญ่ เก้าอ้อมใช่สามาญ ปลายไม้กรานก้มลง ปู่เอาธงปักผลักขึ้น ต้นไม้ฟื้นฟฟั่น ใบไม้สั่นฟฟัด ลัดลุกขึ้นยืนตรง ลมลิ่วธงททัด พัดถูกธงทท้าว ลมสร้าวเสียวเฉียวฉิว ปลิวกระพือยาหยูก ถูกพระองค์ท่านไท้ ถนัดดังสองนางไล้ ลูบให้แลเห็น องค์นา ฯ
พระลอฟั่นเฟือนยิ่งขึ้น
ร่าย
๑๓๒ ท้าวธเปนหนักเล่ากว่าก่อน ดังเห็นสองอ่อนแก่ตา มาชักไท้ธสู่หย้าว มาเชิญท้าว ธ สู่เรือน ใจท้าว ธ เฟือนฟฟั่น สั่นพระองทท้าว น้าวพระองค์ยยัน ผันพระพักตร์บพิตร ไปยัง ทิศตวันออก เขาจึงบอกนาฎบุญเหลือ ธ รีบเมือยังลูกไท้ ไห้มาพลางรันทด สลดฤทัยพระองค์ ทรุดนั่งลงแลพระพักตร์ พระลอลักษณดิลก ทาบตีอกร้องไห้ มือทุ่มทรวงไล้ไล้ ลูกแก้วกับตน แม่เอย ฯ
โคลง ๔
๑๓๓ เจ้าไข้้ทุกข์แม่เพี้ยง ภูเขา ลูกเฮย เจ้าเคลื่อนทุกข์บางเบา สว่างร้อน
มาเห็นพ่อเงียบเหงา หนักกว่า ก่อนนา
ทุกข์เร่งซ้อนเหลือซ้อน ยิ่งฟ้าทับแด ฯ
๑๓๔ หญิงชายเหลือแหล่งหล้า ฤๅยล ยากนา
เห็นแต่เราสองคน คู่ม้วย
ฉันใดพ่อกับตน เปนดั่ง นี้นา
แม้พ่อตายตายด้วย พ่อแล้จอมใจ แม่เอย ฯ
๑๓๕ นายขวัญนายแก้วเร่ง ขวนขวาย หนึ่งรา
หาหมู่หมอทั้งหลาย ทั่วหน้า
มาเร็วเร่งยาสาย สมรแม่ เร็วรา
เดิรด่วนอย่าได้ช้า ช่วยด้วยหัวใจ ฯ