ศาสนาเป็นสถาบันสำคัญยิ่งสำหรับชนในชาติเพราะคำสอนของศาสดาย่อมเป็นหลักทางทางใจ และเป็นแนวดำเนินชีวิตให้อยู่ในทำนองคลองทำ เพื่อความสุขสงบของชนในชาติ คนไทยได้ชื่อว่าเป็นชาติที่มีใจนับถือมั่นอยู่ในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และปฏิบัติตามศาสนาประเพณีตลอดปีมิได้ขาด
การเคารพพระพุทธรูปซึ่งสมมุติเป็นตัวแทนของพระพุทธองค์ และเคารพพระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า
๑.นั่งคุกเข่ากระหย่งเท้าพนมมือยกขึ้นระหว่างคิ้วปลายนิ้วจรดไรผมแล้วกราบแบมือราบกับพื้น๓ครั้งให้หน้าผากจรดพื้นระหว่างมือที่แบราบ เมื่อจบแล้วพนมมือขึ้นเหนือคิ้วอีกครั้งหนึ่ง เรียกว่า กราบในท่าเบญจางคประดิษฐ์
๒. การกราบทั้งสามครั้งนี้มีความหมายดังนี้
การกราบครั้งที่ ๑ กราบเพื่อระลึกถึงองค์พระพุทธเจ้า
การกราบครั้งที่ ๒ กราบพระธรรมคือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
ผู้หญิงนั่งพับเพียบพนมมือระหว่างคิ้ว หมอบกราบแบมือทั้งสองข้างลงกับพื้น ๓ ครั้ง
๔. ถ้าเห็นพระสงฆ์ในเวลาที่เรายืนอยู่นอกสถานบ้านเรือนจะย่อเข่าลงหรือไหว้ก็ได้แต่ให้ปลายนิ้วมือจรดที่ตีนผม
๕. การถวายของพระ
ชาย ถวายได้โดยตรงต่อมือพระสงฆ์ท่านเลยคุกเข่ากราบแบมือครั้งเดียว
หญิง ต้องคอยให้ท่านปูผ้าชิ้นเล็กที่เรียกว่า ผ้ากราบ เพื่อรับเสียก่อนจึงว่างถวายลงบนผ้านั้นเมื่อถวายแล้วกราบอีกครั้ง โดยหมอบกราบแบมือครั้งเดียว
๖. การตักบาตร ถ้ารองเท้าไม่สุภาพควรถอดรองเท้าถ้าใช้เครื่องแบบหรือแต่งตัวแบบสากลไม่ต้องถอดก็ได้หยิบของลงในบาตรพระด้วยความระมัดระวัง วางทีละชิ้นโดยใส่ข้าวก่อนเสมอ
๗. ผู้หญิงไปหาพระสงฆ์ต้องนั่งพับเพียบให้เรียบร้อยไม่ควรอยู่ตามลำพังกับพระสงฆ์ต้องมีบุรุษนั่งอยู่ด้วยจึงจะถูกตามวินัยสงฆ์
๘. การพูดกับพระสงฆ์ต้องมีสำมาคารวะไม่พูดเล่นพล่อย ๆ ซึ่งฟังดูเป็นการขาดความเคารพต่อพระสงฆ์
๙. ผู้หญิงห้ามแตะตัวพระแม้แต่ชายผ้าสบงหรือจีวรที่ท่านนุ่งห่มอยู่ก็ไม่ได้
๑๐. ไม่หยิบของที่เตรียมไว้ตักบาตรมารับประทาน
๑๑. ไม่จำเป็นจะต้องรับประทานอาหารที่นำมาเลี้ยงหน้าศพ ต่อหน้าพระสงฆ์ที่นั่งอยู่ในพิธี
๑๒. กุลสตรีไม่ควรแต่งตัวไม่สุภาพไปวัด เช่น นุ่งกางเกงขาสั้น ถือว่าเป็นการไม่รู้จักกาละเทศะ
๑๓. ไม่สรวลเสเฮฮาในวัดควรสงบและสำรวมอิริยาบถ
๑๔. ถ้าจะถวายปัจจัยแด่พระสงฆ์ควรเขียนจำนวนลงในใบปวารนาบัตรใส่ซองถวาย