ชายจมูกแหว่ง
ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวันเมืองสาวัตถี ทรงปรารภพวกภิกษุได้บูชาต้นโพธิ์ด้วยดอกบัวเพราะอาศัยพระอานนทเถระผู้ฉลาดในการกล่าวถ้อยคำ ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า…
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นลูกชายของเศรษฐีคนหนึ่งในเมืองพาราณสี มีเพื่อนที่เป็นลูกชายเศรษฐีด้วยกันอีก ๒ คน
ในสมัยนั้นมีชายจมูกแหว่งอยู่คนหนึ่งทำหน้าที่ดูแลสระดอกบัวอยู่ชานเมืองพาราณสี วันหนึ่งในเมืองมีมหรสพ ลูกชายเศรษฐีทั้ง ๓ คนได้พากันไปที่สระดอกบัวเพื่อขอดอกบัวประดับกายเพื่อไปเที่ยวงานมหรสพนั้น
พอไปถึงสระดอกบัวแล้วลูกชายเศรษฐีคนที่ ๑ ได้พูดขอดอกบัวกับชายจมูกแหว่งว่า
” พี่ชาย ผมและหนวดที่ตัดแล้วยังงอกขึ้นได้ ขอให้จมูกของท่านงอกขึ้นเช่นกัน ผมขอดอกบัวด้วยครับ ” ชายจมูกแหว่งโกรธไม่ชอบใจจึงไม่ให้ดอกบัวแก่เขา
ต่อจากนั้น ลูกชายเศรษฐีคนที่ ๒ ได้พูดขอดอกบัวว่า
” พี่ชาย ข้าวที่หว่านในนายังงอกขึ้นได้ ขอให้จมูกท่านงอกได้เช่นกัน ผมขอดอกบัวด้วยครับ ” ชายจมูกแหว่งก็ยังโกรธอีกไม่ให้ดอกบัวแก่เขา
พระโพธิสัตว์จึงพูดขอดอกบัวเป็นคนที่ ๓ ว่า
” พี่ชาย คนทั้งสองพูดกับท่านเกินความเป็นจริง ถึงยังไงจมูกของท่านก็ไม่มีวันงอกขึ้นมาได้อีก ผมขอดอกบัวด้วยครับ ”
ชายจมูกแหว่งพอใจจึงพูดว่า ” สองคนนั้นพูดมุสา ท่านจึงพูดความจริง เราให้ดอกบัวแก่ท่าน ” ว่าแล้วก็ยกดอกบัวให้พระโพธิสัตว์ไปกำใหญ่
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
อย่าพูดอะไรให้เกินความเป็นจริง จะเสียใจภายหลัง โดยไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลย