หมอผู้โชคร้าย
ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี ทรงปรารถพระเทวทัตผู้ไม่อาจทำความสะดุ้งกลัวแก่พระองค์ได้จึงตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า…
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิ์สัตว์เกิดเป็นลูกชายพ่อค้าในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เป็นเด็กมีอายุได้ ๗-๘ ขวบ วันหนึ่ง ขณะกำลังเล่นอยู่ใต้ต้นไทรหน้าบ้านกับเพื่อนวัยเดียวกัน มีหมอร่างกายพิการคนหนึ่งเดินออกจากบ้านมาพบเด็กกำลังเล่นกันอยู่ เหลือบไปเห็นงูตัวหนึ่งโผล่หัวออกมาจากโพรงไม้ จึงคิดวางแผนไว้ในใจว่า
“เราเดือดร้อนเงิน ไม่มีใครว่าจ้างเราน่าจะหลอกเด็กพวกนี้ให้งูกัด แล้วเราจะได้รักษามีเงินใช้”
คิดได้แล้วก็เรียกเด็กที่เล่นอยู่มาแล้วพูดว่า
“หลานชาย.. เจ้าอยากได้นกสาลิกาไหม นั้นไงบนต้นไม้นั้น มันอยู่ในโพรงนั่นเอง”
ลูกชายพ่อค้าไม่รู้ว่ามันเป็นงู จึงปีนต้นไม้ขึ้นไปจับถูกคองู พอรู้ว่ามันเป็นงูเห่าก็รีบเหวี่ยงทิ้งไป บังเอิญว่างูนั้นถูกเหวี่ยงไปทางหมอร่างกายพิการคนนั้นพอดี งูจึงรัดคอและก็กัดหมอร่างกายพิการไปหลายที พิษงูทำให้หมอคนนั้นล้มลงเสียชีวิตไปทันทีเพราะไม่สามารถเยียวยาได้ทัน แล้วงูก็เลื้อยเข้าป่าไป ชาวบ้านต่างพากันมุงดูร่างกายของหมอที่นอนตายอย่างน่าสมเพช
พระพุทธองค์เมื่อตรัสอดีตนิทานจบแล้วจึงตรัสพระคาถาว่า
“ผู้ใดประทุษร้ายผู้บริสุทธิ์ ผู้ไม่มีความผิด บาปย่อมกลับมาถึงคนพาลนั้นเอง เหมือนละอองฝุ่นที่บุคคลชัดไปทวนลม ย่อมกลับมากระทบเขาเอง ฉะนั้น”
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัวอย่าคิดทำร้ายคนอื่น เพราะตนเองนั้นแหละจะเดือดร้อนเอง