เฉือนบาร์ซา เชลซีเปิดร

 

  ข่าวกีฬา หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- ศุกร์ที่ 20 เมษายน 2555 00:00:54 น.

  ดิดิเยร์ ดร็อกบา สวมบทฮีโร่ซัดประตูโทนให้ "สิงห์บลูส์" เปิดรังเชือด "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลนา ไปได้ กำความได้เปรียบก่อนไปลุย คัมป์ นู ในสัปดาห์หน้า ในศึก

 

  ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศนัดแรก ด้าน "ดิ มัตเตโอ" ชี้โอกาสเข้ารอบยัง 50-50 ส่วน "กวาร์ดิโอลา" แขวะ เชลซี ตั้งใจมาอุด

 

  การแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ เมื่อวันพุธที่ผ่านมาเป็นการแข่งขันนัดแรก"สิงห์บลูส์" เชลซี เปิดรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ พลิกเฉือนเอาชนะ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลนา ไปอย่างหวุดหวิด 1-0 จากประตูชัยของ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ในนาทีที่ 45 กำความได้เปรียบเอาไว้ก่อน โดยนัดสองจะย้ายไปเล่นใน คัมป์ นู ในวันที่ 24 เม.ย.55

 

  หลังจบเกม โรแบร์โต ดิ มัตเตโอ กุนซือขัดตาทัพของ "สิงห์บลูส์" เชลซี ยอดทีมในศึกพรีเมียร์ลีก ได้ออกมายอมรับ ว่างานยังไม่จบ แม้จะโค่น บาร์เซโลนา 1-0 ได้ก็ตาม ชี้โอกาสยัง 50-50 รับออกไปเยือนเจองานหนักแน่    "มันเป็นผลการแข่งขันที่สุดยอดสำหรับเรา การเจอกับ บาร์เซโลนา เป็นอะไรที่ยากลำบากมาก แม้ว่าจะลงเล่นในบ้านของตัวเองก็ตาม พวกเขาเป็นทีมที่ครองบอลได้ และจะอาศัยช่องว่างเข้าทำประตู ผมกำชับลูกทีมให้หยุดเกมรุกของพวกเขาให้ได้ และเมื่อมีโอกาสก็ต้องจบสกอร์ให้เฉียบคมซึ่งพวกเราก็ทำสำเร็จ"    "แต่ผมคิดว่างานของพวกเรายังไม่จบ โอกาสเข้ารอบยัง 50-50 เรายังมีเกมหนักรออยู่คือการไปเยือน การสู้กับทีมที่ดีที่สุดในโลก ในบ้านของพวกเขา มันเป็นเกมที่ยากลำบากแน่นอน แต่ เชลซี ได้แสดงให้เห็นถึงคุณภาพที่ทีมชุดนี้มีแล้ว" กุนซือชั่วคราวชาวอิตาลี กล่าว

 

  ส่วนทางด้าน โจเซป กวาร์ดิโอลา เทรนเนอร์ บาร์เซโลนา ยักษ์ใหญ่แดนกระทิงดุ ได้ออกมากระตุ้นลูกทีม ต้องจบสกอร์ให้คมมากกว่านี้ พร้อมแขวะ เชลซี ตั้งใจเล่นเกมอุดตลอด 90 นาที "มันเป็นงานยากมาก เมื่อพวกเขาใช้ผู้เล่น 10 คนเล่นเกมรับอยู่ในแดนตนเอง เราต้องพยายามสร้างโอกาส แต่พวกเขาตั้งรับกันลึกมาก เราสร้างโอกาสได้มากมาย แต่เราก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนมันให้เป็นประตูได้"    "เราแพ้แม้ว่าจะมีโอกาสยิงหลายครั้ง เชลซี มีโชคในการทำประตูซึ่งเราไม่มี จากนี้ไปหน้าที่ของเราในวันอังคารหน้าคือต้องลงสนามไปทำประตู เราต้องใช้แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เกมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะทีมที่มีเกมรับอันเหนียวแน่นอย่างเชลซี" กุนซือชาวกระทิงดุ กล่าว