ทุก ๆ คืนพระอาจารย์ท่านหนึ่งจะไปที่เกาะร้างแห่งหนึ่ง เพื่อไปนั่งสมาธิวิปัสสนา มีวัยรุ่นเกเรกลุ่มหนึ่งแอบปีนขึ้นไปบนต้นไม้ตามทางที่พระอาจารย์จะต้องผ่าน เมื่อพระอาจารย์เดินผ่านจึงยื่นมือลงมา แล้วจับหัวของพระอาจารย์ไว้
วัยรุ่นนั้นนึกว่าพระอาจารย์ท่านนั้นจะต้องตกใจกลัวจนวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง แต่พระอาจารย์กลับอยู่นิ่งๆไม่ขยับตัว ปล่อยให้วัยรุ่นนั้นจับตามสบาย แต่วัยรุ่นนั้นกลับตกใจเสียเอง นึกว่าเป็นผี เพราะเห็นไม่เคลื่อนไหว รีบหดมือกลับไป พระอาจารย์ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วเดินจากไป
รุ่งเช้าวัยรุ่นกลุ่มนั้นได้ไปหาพระอาจารย์ท่านนั้นที่วัด แล้วพูดกับพระอาจารย์ว่า
“ได้ข่าวว่า เมื่อคืนนี้มีผีอาละวาดอยู่แถว ๆ ละแวกนี้ ไม่ทราบว่ามีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นจริงหรือเปล่าครับ?”
“ไม่เห็นมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นเลย” พระอาจารย์ตอบ
“ใช่หรือ? แต่พวกเราได้ข่าวว่า มีคนเดินผ่านแถวนี้แล้วโดนผีจับหัวไว้”
“นั่นไม่ใช่ผี แต่เป็นวัยรุ่นในหมู่บ้านนี่เอง”
“ทำไมท่านพูดอย่างนั้นล่ะ”
“เพราะว่า ผีไม่มีมือที่หนาและอุ่นอย่างนั้น” พระอาจารย์พูดต่ออีกว่า
“เมื่อจวนจะออกสนามรบแล้ว ไม่กลัวตาย เป็นความกล้าหาญของท่านนายพล เมื่อจะเข้าป่าแล้วไม่กลัวเสือ เป็นความกล้าของนายพราน เมื่อจะลงน้ำไม่กลัวมังกร เป็นความกล้าของชาวประมง”
"แล้วความกล้าของพระภิกษุคืออะไร? " กลุ่มวัยรุ่นนั้นถาม
"คือ “รู้” คำเดียวเท่านั้น แม้แต่ความเกิดตายยังก้าวพ้นไปได้ แล้วยังจะมีความกลัวอยู่อีกหรือ?”