"บางกอกแอร์เวย์"จับมือ"โฟรซีซั่น สมุย"-"เดอะเชดี เชียงใหม่"ปรุง 12 เมนูเด็ดขึ้นเครื่อง
ความประทับใจในการเลือกใช้สายการบิน นอกจากการได้รับบริการที่ยอดเยี่ยมจากแอร์โฮสเตสสาวสวย และสจ๊อวตหนุ่มหล่อแล้ว อาหารที่เสิร์ฟบนเครื่องบินถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ
ม.ล.นันทิกา วรวรรณ รองผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ กล่าวว่า สายการบินบางกอกแอร์เวย์ได้ร่วมกับโรงแรมโฟร์ซีชั่นส์ รีสอร์ท เกาะสมุย และโรงแรมเดอะเชดี เชียงใหม่ เปิดตัวโครงการ Exclusive Chef in the Sky by Bangkok Airways ขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยทางสายการบินบางกอกแอร์เวย์จะให้เชฟของโรงแรมสร้างสรรค์เมนูขึ้นมา 10 รายการ และมีการตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากบางกอกแอร์เวย์ บางกอกแอร์เคเทอร์ริ่ง และกรรมการกิตติมศักดิ์ ซึ่งได้เชิญนายสันติ เศวตวิมล มาร่วมคัดเลือก ให้เหลือเพียง 6 เมนูสุดยอดมาเสิร์ฟบนเครื่องบินในชั้นบลูริบบอนคลาส(ชั้นธุรกิจ) ในเส้นทางหลักช่วง 6 เดือนหลังของปีนี้ เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคมจนถึงเดือนธันวาคม 2555 คาดว่าผู้โดยสารจะต้องได้รับความพึงพอใจ
"เราต้องการสร้างความแปลกใหม่ให้ผู้โดยสารรู้สึกพิเศษ จึงได้จัดโครงการนี้อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ถือเป็นการสร้างสีสันให้กับผู้โดยสาร และเป็นการตอกย้ำความเป็นบุทีคแอร์ไลน์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น สำหรับเมนูทั้งหมดจะให้บริการในชั้นธุรกิจเส้นทางกรุงเทพ-สมุย ,กรุงเทพ-พนมเปญ ,กรุงเทพ-มัลดีฟส์ ,กรุงเทพ-ธากา ,กรุงเทพ-เบงกาลูรู ,สมุย - สิงคโปร์ และสมุย - ฮ่องกง โดยในเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2555 จะเป็นเมนูของโรงแรมโฟร์ซีซั่น รีสอร์ท เกาะสมุย และตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2555 จะเป็นเมนูของโรงแรมเดอะเชดี เชียงใหม่"ม.ล.นันทิกากล่าว
นายลินุส คโนเบิล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ครัวการบินกรุงเทพ จำกัด กล่าวว่า บางกอกแอร์เคเทอร์ริ่ง(BAC) ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความเชี่ยวชาญด้านอาหารให้ดียิ่งขึ้น โดยการทำแคมเปญ Exclusive Chef in the Sky by Bangkok Airways ทำให้ได้ร่วมงานกับเชฟที่มีความสามารถจากโรงแรมโฟร์ซีซั่น รีสอร์ท เกาะสมุย และโรงแรมเดอะเชดี เชียงใหม่จะช่วยส่งเสริมความชำนาญ และเพิ่มความโดดเด่นด้านการปรุงอาหารที่ BAC มีอยู่
นายอเล็กซ์ กาเลส เชฟใหญ่ โรงแรมโฟร์ซีซั่น รีสอร์ท เกาะสมุย กล่าวว่า อาหารที่นำเสนอให้กับบางกอกแอร์เวย์ในโครงการนี้ได้มีการนำวัตถุดิบท้องถิ่นของไทย สมุนไพร และเครื่องเทศมาใช้ในการปรุงอาหารในรูปแบบที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะการนำอาหารทะเลกับสมุนไพรมาปรุงอาหารจานหลัก
"สำหรับอาหารที่ผมทำมี 6 เมนู ได้แก่ เพนเน่ผัดกุ้ง มะเขือเทศอบแห้ง มะกอกดำ และใบโหระพา , พาสต้าม้วนไส้เห็ด ผักโขม และกุ้ง , สปาเกตตีผัดพริกแพนงไก่ ถั่ว และใบมะกรูด , ก๋วยเตี๋ยวเส้นเซี่ยงไฮ้ผัดพริกแกงเขียวหวานกุ้ง มะเขือยาว และสมุนไพร , ปลากระพงผัดขิง และผักฉ่อย เสิร์ฟพร้อมข้าวหอมมะลิ และกุ้งผัดพริกแกง บล๊อคโครี่ และหน่อไม้ฝรั่ง เสิร์ฟพร้อมบะหมี่ไข่"นายอเล็กซ์กล่าว
นายคริสโตเฟอร์ แพทโซล เชฟใหญ่ โรงแรมเดอะเชดี เชียงใหม่ กล่าวว่า การทำอาหารเสิร์ฟบนเครื่องบินจะมีความแตกต่างจากอาหารที่โรงแรม การได้เตรียมอาหารที่มีรสชาติอร่อย โดยมีความท้าทายอยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรให้อาหารที่ผ่านการปรุงมาระยะเวลาหนึ่งยังคงรสชาติดี และยังคงดูน่ารับประทานอยู่ เพราะอาหารที่เสิร์ฟบนเครื่องบินจะต้องผ่านการอุ่นให้ร้อนก่อนเสิร์ฟอีกครั้ง การได้รักษารสชาติทั้งหมดของอาหารไว้ได้หลังผ่านการอุ่นเป็นความท้าทายมากทีเดียว
"อาหารที่ทำมีทั้งหมด 8 เมนู ได้แก่ เนื้อสันนอกแกะอบ คู่กับผักโขมผัดเนย ราดซอสเนยกุ้งและมันฝรั่ง , ปลาแซลมอนปรุงรส เสิร์ฟคู่กับขาเป็ดตุ๋นแบบยุโรป และสลัดวอเทอร์เครส , ทอร์เทลลินี่พาสต้าสอดใส้ตุ๋นเนื้อน่องแกะ เสิร์ฟพร้อมเห็ดและสมุนไพรปรุงรส , ชีสนมแพะคู่กับถั่ววอลนัท และสลัดบีทรูทอบ , พายน่องเป็ดตุ๋น และเนื้อไก่อบ เสิร์ฟกับผักปลอดสาร และมะเขือเทศปรุงรส , ปลาหิมะอบซอสไพน์นัท เสิร์ฟกับถั่วแขกและมันฝรั่ง , แกงเนื้อแกะแบบอินเดีย เสิร์ฟกับข้าวบาสมาตี และแกงกระเจี๊ยบ ,ปลาแซลมอนย่าง เสิร์ฟกับสลัดหัวเฟนเนล โหระพา และข้าวพิราฟ"นายคริสโตเฟอร์กล่าว