หมดยุค＂ภาพสเกตช์＂ ซอฟต

หมดยุค"ภาพสเกตช์" ซอฟต์แวร์ใหม่ช่วยตำรวจล่าคนร้าย

 

 

  วิธีปฏิบัติอย่างหนึ่งซึ่งใช้กันมานานในแวดวงผู้รักษากฎหมายก็คือ การใช้พนักงานมาสเกตช์ภาพผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นผู้ลงมือก่ออาชญากรรมอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการควานหาตัวมาสอบสวน เอาผิดกันต่อไป

 

  ปัจจุบัน "กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีซีทีวี)" เข้ามามีบทบาทสำคัญในด้านนี้มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ภาพที่ได้จากกล้องบ่อยครั้งที่สร้างปัญหาปวดหัวให้กับเจ้าหน้าที่มากกว่าจะช่วยสร้างความกระจ่างให้ เนื่องจากมีสาเหตุหลากหลายประการที่ทำให้ภาพที่ได้ส่วนใหญ่มักไม่คมชัด เบลอ แตก หรือไม่คนร้ายก็ใช้หมวกหรืออุปกรณ์อื่นใดบดบังใบหน้าของตัวเอง จนยากที่จะใช้บ่งชี้อัตลักษณ์ของคนร้ายได้

 

  "แอนิเมทริคส์" บริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์เล็กๆ แห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกาเล็งเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานดังกล่าวดี จึงพยายามค้นหาวิธีการเพื่อใช้ความสามารถของคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือทำให้การทำงานในด้านนี้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจง่ายขึ้น ชัดเจนและเชื่อถือได้มากขึ้นกว่าเดิม ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือซอฟต์แวร์ที่ชื่อว่า "ฟอเรนซิก้าจีพีเอส" ที่รวมความสามารถของซอฟต์แวร์จดจำลักษณะใบหน้า (เฟซ รีค็อกนิชั่น) เข้ากับความสามารถในการสร้างภาพ 3 มิติ ทำให้ภาพ 2 มิติที่ได้จากกล้องซีซีทีวี สามารถเปลี่ยนเป็นภาพ 3 มิติ ที่มองได้จากทุกมุมมอง มีความละเอียดของภาพมากขึ้น และสามารถนำคุณลักษณะเชิงโครงสร้าง ทั้งของใบหน้าและร่างกายไปเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลคนร้ายที่มีอยู่ได้อีกต่างหาก

 

  "ฟอเรนซิก้าจีพีเอส" ทำงานโดยใช้หลักการเดียวกันกับการกำหนดตำแหน่งด้วยดาวเทียม ซึ่งใช้ดาวเทียมอย่างน้อย 3 ดวงในการกำหนดตำแหน่งของเครื่องรับสัญญาณอย่างแม่นยำ ฟอเรนซิก้าจีพีเอส ไม่ได้ใช้ดาวเทียม แต่นำหลักการดังกล่าวมาใช้ในการสร้างภาพ 3 มิติ จึงมีชื่อ "จีพีเอส" ต่อท้ายชื่ออยู่ด้วย ซอฟต์แวร์ตัวนี้ทำงานคล้ายๆ กับจีพีเอส ตรงที่มันสามารถเก็บเอาลักษณะที่เด่นชัดของวัตถุต้นแบบจากภาพ 2 มิติ หลายๆภาพ หรืออย่างน้อยที่สุด 5 ภาพ มาใช้เป็นข้อมูลในการสร้างภาพ 3 มิติขึ้นมา

 

  ข้อดีก็คือ ข้อมูลที่ ฟอเรนซิก้าจีพีเอส เก็บมาเพื่อสร้างภาพ 3 มิติ นั้นละเอียดยิบ มันไม่เพียงเก็บลักษณะอย่างรอยแผลเป็น, รอยสักหรือ ลักษณะปรุพรุน ริ้วรอยบนใบหน้ามาได้เท่านั้น ยังเก็บระยะห่างระหว่างอวัยวะบนใบหน้าของภาพต้นแบบ เก็บโครงสร้างกระดูกของร่างกาย และคุณลักษณะอื่นๆ ผลก็คือ เจ้าหน้าที่สามารถนำคุณลักษณะดังกล่าวนี้ไปเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลคนร้ายที่มีอยู่ เพื่อบ่งชี้ตัวผู้ต้องสงสัยได้อย่างรวดเร็ว

 

  แอนิเมทริคส์ ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ตัวนี้ยืนยันว่า ด้วยวิธีการใช้ ฟอเรนซิก้าจีพีเอส เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถบ่งชี้ตัวผู้ต้องสงสัยได้อย่างรวดเร็ว เร็วกว่าวิธีการใช้คอมพิวเตอร์สร้างภาพ 2 มิติ ก่อนหน้านี้ แถมยังมีประสิทธิภาพและความแม่นยำสูงกว่าอีกด้วย ไม่ว่าภาพต้นแบบที่ได้มาจะมีความละเอียดและมีความชัดเจนน้อยแค่ไหนก็ตามที

 

  ซอฟต์แวร์เพื่อการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลตัวนี้ยังไม่มีการทดลองใช้งานในสภาพจริง แต่หากมีคุณสมบัติครบถ้วนอย่างที่อ้าง อีกไม่นานก็คงมีการนำไปใช้กันทั่วสหรัฐอเมริกา

 

  แล้วก็คงหมดยุคของนักสเกตช์ภาพคนร้ายจากคำบอกเล่าไปโดยปริยาย