ยังจำการ์ตูนยอดฮิตสมัยเด็กของเราอย่างฟลินท์สโตนส์ได้ไหม? ว่ากันว่าถ้าเราย้อนไปกินแบบคนในยุคนั้น น้ำหนักเราจะหายไปได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจเลยทีเดียว
เชื่อว่าปณิธานปีใหม่ของใครหลายคนต้องมีข้อที่ว่า "ฉันจะต้องผอมให้ได้" อยู่ด้วยแน่อๆ แต่ผ่านมาถึงวันนี้ ลดกันไปได้กี่กิโลกรัมแล้วคะ? วันนี้ Lisa Guru ก็เลยมีสูตรไดเอ็ตมาแนะนำให้รู้จักกันอีกหนึ่งสูตร ซึ่งเป็นสูตรที่เชื่อแน่ว่าหลายคนอยากรู้จักมาก ถึงขั้นมียอดค้นหาเป็นอันดับหนึ่งใน Google เมื่อปีที่แล้วเลยทีเดียว เรากำลังพูดถึง The Paleo Diet (The Caveman Diet) หรือสูตรไดเอ็ตแบบมนุษย์ยุคดึกดำบรรพ์นั่นเอง
หลักการของสูตรนี้ก็คือ…
ไม่จำเป็นต้องมานั่งนับแคลอรี่ทุกวันก่อนเข้าปาก หรือเข้าไปหมกตัวอยู่ในฟิตเนสทั้งวันทั้งคืน แต่ให้เน้นการกินแบบมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ คือกินสิ่งที่หาได้ในยุคนั้นเช่น ผัก ผลไม้ เมล็ดพืช อาหารทะเล เนื้อสัตว์ (หน้าตาที่ออกมาก็จะเป็นการลดคาร์โบไฮเดรตคล้าย ๆ กับสูตรที่เคยโด่งดังอย่างแอทคินส์ เพียงแต่จะเน้นผักมากกว่าเท่านั้นเอง)
ลอเรน คอร์เดน ผู้ที่คิดค้นสูตรนี้เป็นศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพและการออกกำลังกายของมหาวิทยาลัยโคโลราโด สเตท บอกว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณอ้วนก็คือ ร่างกายของคุณยังปรับให้เข้ากับอาหารสมัยใหม่ เช่น พวกอาหารแปรรูปต่าง ๆ ไม่ได้
ไม่ใช่แค่ผอมเท่านั้นนะ
คอร์เดนบอกว่า เมื่อปรับพฤติกรรมการกิน สุขภาพของคุณก็จะดีขึ้นตั้งแต่ระบบภูมิคุ้มกัน ไปจนถึงระดับไขมันและน้ำตาลในเลือด ความเสี่ยงเบาหวาน ความดันโรคหัวใจ และโรคมะเร็งก็เลยลดลงตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม นักวิชาการส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนับสนุนแนวคิดนี้นัก โดยบอกว่าผลที่เกิดขึ้นดีต่อร่างกายแค่ช่วงสั้น ๆ เท่านั้น แต่ในระยะยาว การที่คุณตัดขาดจากนมและธัญพืชจะทำให้คุณขาดสารอาหารหลายชนิด อาหารทะเลก็มีคอเลสเตอรอลสูง หากไม่จำกัดปริมาณและกินไม่เลือก โรคหัวใจจะมาเยือนในเวลาไม่นาน
กินตามง่าย ๆ…ไม่ยากเลย
แบ่งการกินเป็น 3 ส่วนประกอบด้วยผักและผลไม้สด 1 ส่วน ผักและผลไม้ปรุงสุก 1 ส่วน และเนื้อสัตว์กับอาหาร ทะเล 1 ส่วน
กินอาหารได้วันละ 2-3 มื้อ แต่ในหนึ่งสัปดาห์ต้องเลือกอดอาหาร 1 มื้อ
ดื่มน้ำเยอะ ๆ และกินจนกว่าจะอิ่ม !
ของต้องห้ามเมื่อจะกินแบบ Paleo
ผลิตภัณฑ์นม
อาหารที่ผ่านการแปรรูป
น้ำตาล
อาหารกึ่งสำเร็จรูป
ธัญพืช
แอลกอฮอล์