สระเกิน คือสระที่มีเสียงของพยัญชนะปนอยู่ มี 8 เสียงดังนี้
- –ำ /am, aːm/ am ประสมจาก อะ + ม (อัม)เช่น ขำ บางครั้งออกเสียงยาวเวลาพูด (อาม)เช่น น้ำ
- ใ– /aj, aːj/ ai ประสมจาก อะ + ย (อัย)เช่น ใจ บางครั้งออกเสียงยาวเวลาพูด (อาย)เช่น ...
- ไ– /aj, aːj/ ai ประสมจาก อะ + ย (อัย)เช่น ไหม้ บางครั้งออกเสียงยาวเวลาพูด (อาย)เช่น ไม้
- เ–า /aw, aːw/ ao ประสมจาก อะ + ว (เอา)เช่น เกา บางครั้งออกเสียงยาวเวลาพูด (อาว)เช่น เก้า
- ฤ /rɯ/ rue,ri,roe ประสมจาก ร + อึ (รึ)เช่น ฤกษ์ บางครั้งเปลี่ยนเป็น/ri/ (ริ)เช่น กฤษณะ หรือ /rɤː/ (เรอ)เช่น ...
- ฤๅ /rɯː/ rue ประสมจาก ร + อือ (รือ)
- ฦ /lɯ/ lue ประสมจาก ล + อึ (ลึ)
- ฦๅ /lɯː/ lue ประสมจาก ล + อือ (ลือ)
บางตำราก็ว่าสระเกินเป็นพยางค์ ไม่ถูกจัดว่าเป็นสระ
สระบางรูปเมื่อมีพยัญชนะสะกด จะมีการเปลี่ยนแปลงรูปสระ สามารถสรุปได้ตามตารางด้านขวา
¹ คำที่สะกดด้วย –ะ + ว นั้นไม่มี เพราะซ้ำกับ –ัว แต่เปลี่ยนไปใช้ เ–า แทน
² คำที่สะกดด้วย –อ + ร จะลดรูปเป็น –ร ไม่มีตัวออ เช่น พร ศร จร ซึ่งก็จะไปซ้ำกับสระ โ–ะ ดังนั้นคำที่สะกดด้วย โ–ะ + ร จึงไม่มี
³ คำที่สะกดด้วย เ–อ + ย จะลดรูปเป็น เ–ย ไม่มีพินทุ์อิ เช่น เคย เนย เลย ซึ่งก็จะไปซ้ำกับสระ เ– ดังนั้นคำที่สะกดด้วย เ– + ย จึงไม่มี
⁴ พบได้น้อยคำเท่านั้นเช่น เทอญ เทอม
⁵ มีพยัญชนะสะกดเป็น ย เท่านั้น เช่น ไทย ไชย