ชื่อ:ท้าวกบิลพรหม
ภาค :ภาคกลาง
จังหวัด :กรุงเทพมหานคร
ประวัติ
ท้าวกบิลพรหม หรือ ท้าวมหาพรหม สถิตอยู่บนพรหมโลกชั้นที่ ๓ มหาพรหมภูมิมีหน้าที่สอดส่องดูแลมวลมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลาย มีพระธิดา ๗ องค์ คือ ทุงษเทวี ราโคเทวี รากษสเทวี มณฑาเทวี กิรินีเทวี กมีทาเทวี และมโหธรเทวี ทรงพระสิริโฉมงดงามยิ่งนัก ประวัติของท้าวกบิลพรหมและพระธิดาทั้ง ๗ เกี่ยวเนื่องกับตำนานสงกรานต์ ได้เล่าขานสืบต่อกันมา
สมัยต้นภัทรกัลป์เศรษฐีคนหนึ่งมาพบนักเลงสุราโดยบังเอิญ ได้ถูกนักเลงสุรากล่าวเย้ยหยันดูถูกเศรษฐีว่า ท่านเศรษฐีมีสมบัติก็มากมายมหาศาล แต่จะมีบุตรมาเกิดสักคนไม่ ข้าพเจ้าสิดีกว่าท่านเป็นไหนๆ มีบุตรตั้ง ๒ คนรูปร่างงดงามหมดจดน่ารัก ท่านคงมีเวรมีกรรม ไม่สามารถมีบุตรไว้สืบสกุลอย่างข้าพเจ้าได้ ท่านเศรษฐีมีความละอายใจและน้อยใจตัวเอง เฝ้าแต่คิดว่าจะทำอย่างไร จึงได้จัดเครื่องสังเวยบูชาพระอาทิตย์และพระจันทร์วอนขอบุตรเป็นเวลา ๓ ปี ก็มิได้บุตรตามความปรารถนา ครั้นถึงฤดูคิมหันต์ วันสงกรานต์ เศรษฐีจึงพาบริวารไปยังต้นไทร นำเอาข้าวสารมาล้างน้ำ ๗ ครั้ง แล้วหุงบูชารุกขเทวดา ณ ใต้ต้นไทรนั้นพร้อมด้วยโภชนาหารดอกไม้เครื่องหอม และผ้าแพร ๓ สี ตั้งจิตอธิษฐานขอบุตรต่อรุกขเทวดา ณ พระไทรแห่งนั้น และด้วยความเมตตาสงสาร พระไทรจึงขึ้นไปเฝ้าพระอินทร์ให้ประทานบุตรแก่เศรษฐี พระอินทร์ได้ส่งธรรมบาลเทวบุตร จุติลงมาเกิดเป็นบุตรเศรษฐี มีชื่อว่าธรรมบาลกุมาร มีสติปัญญาความสามารถฉลาดรอบรู้ศิลปศาสตร์ต่างๆ สามารถบอกมงคลกาลเป็นที่ยกย่องแก่คนทั้งหลายในชมพูทวีป
จากคำเล่าลือท้าวกบิลพรหมใคร่ทดสอบความสามารถของธรรมบาลกุมาร จึงเสด็จมายังโลกมนุษย์พบกับธรรมบาลกุมาร เพื่อขอถามปัญหา ๓ ข้อโดยมีสัญญาว่า ถ้าธรรมบาลตอบได้ ท้าวกบิลพรหมตัดหัวตนเองขึ้นบูชา ถ้าธรรมบาลตอบไม่ได้ธรรมบาลจะต้องตัดหัวตนเองขึ้นบูชา และให้เวลาคิดปัญหา ๗ วัน ธรรมบาลรับพนันตอบปัญหาท้าวกบิลพรหม ๓ ข้อ
ข้อที่ ๑ เวลาเช้าราศีอยู่ที่ใด
ข้อที่ ๒ เวลาเที่ยงราศีอยู่ที่ใด
ข้อที่ ๓ เวลาค่ำราศีอยู่ที่ใด
ธรรมบาลกุมารเฝ้าขบคิดปัญหาคิดเท่าไรก็คิดไม่ออกคงเหลือเวลาอีกเพียง ๑ วัน รู้สึกท้อแท้ใจจึงเดินไปพักคิดอยู่ใต้ต้นไทรใหญ่ ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงนกอินทรีผัวเมียพูดโต้ตอบกันว่า
นกอินทรีตัวผู้พูด "พรุ่งนี้เราจะได้กินเนื้อมนุษย์เป็นอาหารเพราะครบ ๗ วัน ที่ธรรมบาลจะต้องตอบปัญหาท้าวกบิลพรหม ถ้าตอบปัญหาไม่ได้จะต้องถูกตัดหัว"
นกอินทรีตัวเมียพูด "ท่านรู้จักแก้ปัญหานั้นหรือไม่"
นกอินทรีตัวผู้ตอบ "รู้สิ เวลาเช้า ราศีนั้นอยู่ที่หน้าคนทั้งหลายต้องเอาน้ำล้างหน้า เวลาเที่ยง ราศีอยู่ที่อก คนทั้งหลายจึงเอาน้ำมาลูบอก เวลาเย็น ราศีอยู่ที่เท้าคนทั้งหลายต้องเอาน้ำมาล้างเท้า"
ครั้นธรรมบาลกุมารได้ฟังจดจำคำในการแก้ปัญหาได้อย่างแม่นยำ ครบกำหนด ๗ วันตามสัญญา ท้าวกบิลพรหมก็ลงมาตามที่นัดหมายไว้กับธรรมบาลกุมาร ธรรมบาลกุมารแก้ปัญหานั้นได้อย่างคล่องแคล่ว ท้าวกบิลพรหมได้ฟังคำตอบก็กล่าวว่า "เจ้าเป็นผู้ชนะเราเป็นผู้แพ้ จะต้องเสียหัวให้เป็นรางวัลตามสัจจะวาจา"
ท้าวกบิลพรหมได้เรียกพระธิดาทั้ง ๗ องค์ ซึ่งเป็นบาทบริจาริกาของพระอินทร์เข้ามาหาแล้วสั่งความว่า
๑. อย่าให้เศียรของเราตกถึงพื้นดินเป็นอันขาด ถ้าตกถึงพื้นดินเมื่อใดจะเกิดไฟบรรลัยกัลป์ล้างโลก
๒. อย่าให้เศียรของเราตกลงไปในมหาสมุทร น้ำจะแห้งขอดตลอดไป
๓. อย่าทิ้งเศียรของเราลอยไปในอากาศ จะทำให้ฝนแล้งตลอดไป
ท้าวกบิลพรหมจึงสั่งให้นางทุงษเทวีนำเอาพานทองมารองรับพระเศียร และให้เทพบริษัททำประทักษิณเวียนรอบเขาพระสุเมรุ แล้วเชิญเข้าประดิษฐานในมณฑลถ้ำคันธธุลี ณ เขาไกรลาส บูชาด้วยเครื่องทิพย์ชื่อ ภควดี ใช้เป็นที่ประชุมเทพยดา แล้วนำเอาเถาฉมูนาคมาล้างในสระอโนดาษ ๗ ครั้ง แล้วแจกจ่ายกันเสวยโดยทั่วกัน และเมื่อครบกำหนด ๑ ปี ถือกันว่าเป็นวันมหาสงกรานต์ เทพบริษัทแสนโกฏิพร้อมด้วยพระธิดาทั้ง ๗ องค์ ผลัดเวรกันเชิญพระเศียรท้าวกบิลพรหมแห่แหนทำประทักษิณไปรอบเขาพระสุเมรุเป็นประจำทุกปี