泰语学习网
甲米—夜深后不出门
日期:2012-04-27 21:39  点击:548

 

ห้ามเดินทางก่อนวิกาล
 
ภาค :ภาคใต้
จังหวัด :กระบี่
 
ลักษณะความเชื่อ
เป็นความเชื่อเกี่ยวกับการห้ามเดินทางในเวลาก่อนย่ำค่ำต้องรอให้มืดเสียก่อนจึงจะเดินทางต่อไป เพราะเชื่อว่าเวลาดังกล่าวเป็นย่ำยามของภูตผีปีศาจ
ความเชื่อของชาวบ้านในเรื่องนี้ผูกพันกับเรื่องราวของโชคลาง เล่ากันว่าครั้งหนึ่งมียักษ์ตนหนึ่งบำเพ็ญตบะอยู่ช้านาน จนร้อนไปถึงพระผู้เป็นเจ้ามาปรากฏพร้อมได้ถามยักษ์ว่าเจ้าต้องการสิ่งใด ยักษ์ทูลขอพร ๓ ประการ ว่า
๑. ขอไม่ให้ใครฆ่าตายไม่ว่าจะเป็นคน เทวดา สัตว์ ก็ตาม
๒. ขอให้ไม่ตายไม่ว่านอกบ้านหรือในบ้าน
๓. ขอให้ไม่ตายไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน
พระผู้เป็นเจ้าก็อนุญาต หลังจากนั้นยักษ์ก็ไปประพฤติตนเป็นพาล ทำความเดือดร้อนให้เกิดขึ้นทั่วไป เทวดาและมนุษย์ก็ไปฟ้องพระผู้เป็นเจ้า แต่พระองค์ตรัสให้ไปหาพระนารายณ์มาปราบยักษ์ มนุษย์และเทวดาก็ไปหาพระนารายณ์ตามเทวบัญชา พระนารายณ์มาปราบยักษ์โดยการแปลงตัวมาเป็น "ครึ่งคนครึ่งสัตว์" พร้อมกับจับยักษ์มาวางที่ตรงธรณีประตู แล้วถามยักษ์ว่ารู้ไหมว่าเป็นใคร ยักษ์ตอบไม่ได้เพราะไม่เคยเห็นคนครึ่งสัตว์มาก่อน พระนารายณ์ถามต่อไปว่าเวลานี้นอนอยู่ที่ไหน ยักษ์ตอบไม่ถูกว่านอนอยู่ในบ้านหรือนอกบ้าน เพราะเป็นธรณีประตู พระนารายณ์จึงถามต่อไปว่าเวลานี้เป็นเวลาเท่าใดแล้ว ยักษ์ตอบไม่ถูกว่ากลางวันหรือกลางคืน เพราะเข้าย่ำสนธยาสลัวยังไม่มืดไม่สว่าง ยักษ์จึงถูกฆ่าตาย ชาวบ้านเชื่อว่าช่วง
เวลาดังกล่าวจะปลอดความคุ้มกัน เป็นเวลาที่ยักษ์ตายห้ามเดินทาง สมัยก่อนการเดินทางมักเดินทางด้วยเท้า ผ่านป่าเขาหรือที่กันดาร ไม่มีพาหนะเหมือนทุกวันนี้ ผู้ใหญ่จึงบอกเด็ก ๆ ว่าให้หยุดพักรอให้มืดเสียก่อนแล้วค่อยเดินทางต่อได้
 
สาระ
ข้อความดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากการเดินทางในสมัยก่อนเป็นการเดินทางด้วยเท้า จึงไม่ปลอดภัย เพราะช่วงเวลาก่อนมืดเป็นเวลาที่บรรดาสัตว์ต่าง ๆ ทั้งดีและร้าย เริ่มออกหากินหรือไม่ก็กลับรวงรัง เช่น นกบินกลับรัง เสือเริ่มออกหากิน งูเงี้ยวสัตว์มีพิษน้อยใหญ่ออกจากรู ทำให้เกิดอันตรายกับผู้เดินทางได้ จึงให้หยุดเสียก่อนรอให้ทุกอย่างคืนสู่สภาพปกติจึงค่อยเดินทางต่อไป เป็นการสอนคนให้รู้จักระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยของชีวิต

分享到:

顶部
11/27 19:43
首页 刷新 顶部